Last updated: 28 มี.ค. 2567 | 266820 จำนวนผู้เข้าชม |
เบื่อไหมกับปัญหารถไม่ค่อยขับ แต่พอจะใช้ดันสตาร์ทเครื่องไม่ติด เจอปัญหาแบตเตอรี่เสื่อมสภาพ หรือแบตเตอรี่หมดไฟ โดยวิธีแก้ปัญหาที่หลายคนทำกันคือ ต้องมานั่งสตาร์ทเครื่องทิ้งไว้ 10 นาที แต่ก็ยังสตาร์ทไม่ติดอยู่ดี เพราะรอบไฟไม่สูงพอที่จะชาร์จไฟเข้าแบตฯ หรือบางคนต้องเสียเวลาเอารถออกไปขับวนอย่างน้อย 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ เพื่อชาร์จแบตฯ ทำให้เสียเวลาชีวิตเป็นอย่างมาก เพราะถ้าไม่ทำอย่างนั้นแบตเตอรี่รถก็จะคายประจุไฟออกมาหมด ซึ่งเป็นต้นเหตุทำให้รถสตาร์ทไม่ติดและแบตเตอรี่เสื่อมสภาพก่อนเวลาอันควร ดังนั้นเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาแบตเตอรี่เสื่อม และไม่ต้องมานั่งเสียเวลาคอยเอารถออกไปขับวนทุกอาทิตย์ คุณควรชาร์จแบตฯ ด้วยเครื่องชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์อยู่เป็นประจำ เพื่อให้ไฟในแบตเตอรี่รถนั้นเต็มอยู่ตลอดเวลานั่นเอง
ขึ้นชื่อว่าแบตเตอรี่ในรถยนต์ ถ้าให้เปรียบเทียบกับอวัยวะในร่างกายคน ก็คงเปรียบเสมือนเป็นหัวใจ ที่ต้องรักษาให้ดีที่สุด หน้าที่ของแบตเตอรี่คือเก็บไฟฟ้าสำรองที่ถูกผลิตขึ้นจากการหมุนของไดชาร์จ หรืออัลเตอร์เนเตอร์ในรถยนต์ นอกจากนี้ยังทำหน้าที่จ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับส่วนต่างๆ ของรถยนต์ ตั้งแต่เครื่องยนต์ ระบบคอมพิวเตอร์ จนถึงอุปกรณ์อิเลคโทรนิกส์ที่ใช้ภายในรถ
การยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่รถยนต์ ถือเป็นการช่วยตัดปัญหาให้ไม่ต้องหงุดหงิดทุกครั้งที่รถสตาร์ทไม่ติด และวิธีการที่ช่วยให้ประหยัดเงินค่าเปลี่ยนแบตเตอรี่ ด้วยภาวะเศรษฐกิจในตอนนี้เชื่อว่าทุกคน ต้องการลงทุนกับสิ่งที่มีอายุการใช้งานนาน คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปในระยะยาว ไม่อยากเสียเงินในสิ่งที่ไม่จำเป็น การทำให้แบตเตอรี่พร้อมใช้งานตลอดเวลา ยังถือเป็นการลงทุนในเรื่องของเวลาที่จะต้องเสียไปเพื่อขับรถวน ให้แบตเตอรี่ใช้งานได้อย่างปกติ เมื่อต้องการใช้งาน
ทั้งนี้เพื่อเป็นการรักษาแบตเตอรี่ให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานเป็นเวลาสองปีขึ้นไป ไม่ใช่เพียงแต่ต้องเลือกยี่ห้อที่ดังอย่างเดียว แต่คุณต้องดูแลรักษารถให้ดี เหมือนที่ดูแลสุขภาพของตัวคุณให้มีอายุยืนยาว ดังนั้นคุณต้องรู้จักวิธีการถนอมอายุการใช้งานแบตเตอรี่ อย่างเช่นการชาร์จแบตเตอรี่ให้ถูกวิธี ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยที่เป็นตัวช่วยยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ทุกยี่ห้อให้ได้ยาวนานขึ้น
ไม่ว่ารถของคุณจะใช้แบตเตอรี่แบบแห้ง แบบน้ำ แบบแคลเซียม แบบเจล และแบบ AGM แบตเตอรี่ถืออุปกรณ์สำคัญอีกอย่างที่ต้องได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม ต้องหมั่นตรวจสอบสภาพแบตเตอรี่อย่างสม่ำเสมอ อย่าให้มีรอยแตกร้าวหรือลักษณะที่บวมได้ นอกจากนั้นต้องดูแลขั้วแบตเตอรี่ไม่ให้สกปรก หรือมีขี้เกลือเกาะติด และควรขันให้แน่นสนิท ตรวจสอบระดับน้ำกลั่นอย่างสม่ำเสมอ เพื่อรักษาสภาพแบตเตอรี่ไม่ให้มีปัญหาในภายหลัง
รถที่แบตเตอรี่เสื่อมก็มักจะเป็นรถที่จอดไว้ไม่ค่อยใช้งาน การดูแลแบตให้ดีที่สุด คือการชาร์จแบตให้เต็มทุกครั้ง ดังนั้นเมื่อคุณต้องการเปลี่ยนไปใช้รถคันอื่น ทำให้ต้องจอดรถคันที่ไม่ได้ใช้งานทิ้งไว้แล้วไม่รู้ว่าจะได้ใช้งานอีกเมื่อไหร่ คุณควรชาร์จแบตเตอรี่ของรถคันที่ไม่ได้ใช้งาน ให้มีไฟเต็มพร้อมสตาร์ท หมดปัญหาเวลาจะใช้รถแล้วสตาร์ทรถไม่ติด ควรเลือกเครื่องชาร์จที่ตัดไฟอัตโนมัติ ไม่ต้องเสียเวลานั่งเฝ้า และสามารถเติมไฟอัตโนมัติ ในกรณีที่จอดรถทิ้งไว้ระยะเวลานานเป็นเดือน
โดยทั่วไปแล้ว ควรชาร์จแบตเตอรี่ด้วยกระแสไม่เกิน 10-15% ของความจุแบตเตอรี่ โดยจะต้องเช็คว่าแบตเตอรี่รถยนต์หรือมอเตอร์ไซค์นั้นมีขนาดความจุแบตเตอรี่ (Ah) เท่าไหร่ โดยเลือกเครื่องชาร์จหรือปรับกระแสไฟให้เหมาะสม
ความคิดที่ว่า “รีบอัดกระแสไฟฟ้าเยอะๆ เพื่อที่จะทำให้แบตเตอรี่ของรถยนต์ที่ชาร์จนั้นเต็มได้เร็วขึ้น” เป็นความคิดที่ผิด เพราะอาจทำให้แบตเตอรี่เสียจากการ Overcharge
ด้วยเทคโนโลยีลิขสิทธิ์ของ CTEK โปรแกรมการชาร์จ 8 ขั้นตอน ช่วยปรับกระแสชาร์จไฟให้เหมาะสมกับสถานะของแบตเตอรี่ให้การชาร์จแบตเตอรี่มีประสิทธิภาพ รวดเร็ว และปลอดภัยที่สุด โดยไม่ทำแบตเตอรี่ของคุณเสีย ไม่ทำให้รถของคุณเสีย และคุณใช้งานได้อย่างปลอดภัย
ระยะเวลาในการชาร์จหลักๆ จะขึ้นอยู่กับขนาดของแบตเตอรี่และประจุไฟที่เหลืออยู่ในแบตเตอรี่แต่ละลูก ซึ่งอาจใช้เวลาอยู่ที่ 2 ถึง 20 กว่าชั่วโมง (ในกรณีที่แบตฯ อ่อนมาก) หากรถมีการใช้งานอย่างสม่ำเสมอ ไดชาร์จก็จะทำงานบ่อย ทำให้ประจุไฟในแบตเตอรี่เหลือมากกว่ารถที่จอดทิ้งนาน จึงใช้เวลาในการชาร์จน้อยกว่า ควรเลือกเครื่องชาร์จแบตเตอรี่ที่มีระบบปรับกระแสไฟอัตโนมัติ ตามปริมาณไฟที่เหลือในแบตเตอรี่ ทำให้ชาร์จได้เร็วและแบตเตอรี่ไม่เสียจากการ Overcharge
โดยสรุปแล้ววิธีการบำรุงรักษาแบตเตอรี่ คือ การคอยดูแลแบตเตอรี่รถยนต์ของคุณให้ไฟเต็มอยู่เสมอ เป็นการยืดอายุแบตเตอรี่ให้เต็มประสิทธิภาพมากที่สุด การที่จอดทิ้งไว้จนแบตเตอรี่อ่อน สตาร์ทไม่ติดแล้วค่อยมาชาร์จเป็นความคิดที่ผิด เพราะทำให้แบตเตอรี่เสื่อมไว เมื่อรู้วิธีการชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์อย่างถูกวิธีแล้ว ก็ควรหาเครื่องชาร์จแบตเตอรี่ที่มีคุณภาพ เพื่อเป็นตัวช่วยในการดูแลแบตเตอรี่รถที่จอดทิ้งไว้นาน
หากคุณเป็นผู้ที่เลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับชีวิต เราขอแนะนำ CTEK เครื่องชาร์จแบตเตอรี่อัจฉริยะ จากประเทศสวีเดน
และนี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมต้องเลือก CTEK จากสวีเดน
หากคุณต้องการใช้เครื่องชาร์จที่ครอบคลุมทั้งรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ เราแนะนำ CTEK MXS 5.0 เครื่องชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์อัจฉริยะ ที่มีกระแสชาร์จสูงสุด 5A เหมาะสำหรับแบตเตอรี่ขนาด 1.2 - 110Ah รองรับการชาร์จรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ ซึ่งเป็นรุ่นที่ขายดีที่สุดของ CTEK
หากคุณเป็นสายสองล้อ สายมอเตอร์ไซค์ และ Big Bike เราขอแนะนำรุ่น CTEK XS 0.8 เครื่องชาร์จแบตเตอรี่อัจฉริยะ ที่มีกระแสชาร์จสูงสุด 0.8A เหมาะสำหรับแบตเตอรี่ขนาด 1.2 - 32Ah สามารถชาร์จได้ทั้งแบตรถบิ๊กไบค์และชาร์จแบตรถมอเตอร์ไซค์ทั่วไป อีกทั้งยังมีเซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิเพื่อช่วยปรับกระแสไฟที่ชาร์จเข้าแบตเตอรี่อัตโนมัติ เพื่อไม่ให้แบตเตอรี่ร้อนเกินไปอีกด้วย
30 ก.ย. 2567
23 พ.ค. 2566
30 ก.ย. 2567