วิธีจั๊มแบตรถยนต์ด้วยตนเอง รวมขั้นตอนที่ถูกต้องและข้อควรระวัง

Last updated: 16 พ.ย. 2566  |  15736 จำนวนผู้เข้าชม  | 

วิธีจั๊มแบตรถยนต์ด้วยตนเอง

ปัญหารถสตาร์ทไม่ติดเพราะอาการแบตเตอรี่เสื่อมหรือแบตเตอรี่หมด ถือเป็นปัญหาน่าปวดหัวที่เจ้าของรถหลายท่านไม่อยากให้เกิดขึ้น เพราะนอกจากจะต้องเสียเงินเพื่อเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่แล้ว มันยังทำให้คุณต้องเสียเวลาอันมีค่าไปโดยใช่เหตุอีกด้วย ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องคอยดูแลแบตเตอรี่รถยนต์อย่างสม่ำเสมอ หากคุณไม่มีเวลานำรถออกไปขับ คุณก็ควรใช้ที่ชาร์จแบตรถยนต์คอยชาร์จไฟให้เต็มอยู่ตลอด เพื่อป้องกันปัญหาแบตเตอรี่เสื่อมจากการจอดรถทิ้งไว้เป็นเวลานาน


แต่ถ้าเกิดปัญหารถสตาร์ทไม่ติดขึ้นแล้ว การจั้มแบตรถยนต์ก็ถือเป็นวิธีแก้ไขเบื้องต้นที่คุณเองก็สามารถทำได้ วันนี้เราจึงได้รวบรวมวิธีจั๊มแบตรถยนต์ที่ถูกต้องมาฝากเพื่อน ๆ ทุกคนครับ

 

วิธีจั๊มแบตรถยนต์ที่ถูกต้อง

วิธีจั๊มแบตรถยนต์ที่ถูกต้อง

  • ตรวจสอบให้แน่ใจว่ารถทั้งสองคันจอดอยู่ในตำแหน่งที่ปลอดภัยและห่างไกลจากวัตถุไวไฟ
  • ดับเครื่องยนต์และเปิดฝากระโปรงรถทั้งสองคัน
  • สวมถุงมือและแว่นตานิรภัยเพื่อความปลอดภัย
  • ระบุขั้วบวกและขั้วลบของแบตเตอรี่รถทั้งสองคัน
  • ใช้สายจั๊มแบตสีแดงต่อเข้ากับขั้วบวกของแบตเตอรี่ที่หมดก่อน แล้วค่อยนำสายพ่วงสีแดงอีกด้านไปต่อกับขั้วบวกของแบตเตอรี่ที่มีไฟ
  • จากนั้นใช้สายจั๊มแบตสีดำต่อเข้ากับขั้วลบของแบตเตอรี่ที่มีไฟ แล้วค่อยนำสายพ่วงสีดำอีกข้างต่อเข้ากับจุดกราวด์ของรถที่แบตหมด (เช่น โครงรถหรือเครื่องยนต์)
  • สตาร์ทรถคันที่มีแบตเตอรี่ปกติ ปล่อยให้เครื่องยนต์ทำงานเป็นเวลา 2-3 นาที แล้วค่อยสตาร์ทเครื่องยนต์ของรถที่แบตเตอรี่หมด
  • ปล่อยให้เครื่องยนต์ของรถที่แบตหมดทำงานเป็นเวลาประมาณ 10 นาที แล้วค่อยถอดสายจั๊มแบตออกจากรถทั้งสองคัน โดยเริ่มจากถอดสายพ่วงแบตเตอรี่ขั้วลบจากคันที่แบตหมดก่อน แล้วค่อยถอดขั้วลบและขั้วบวกของรถที่มาช่วยตามลำดับ ตามด้วยขั้วบวกของรถที่แบตหมดเป็นอย่างสุดท้าย
  • ปิดฝากระโปรงรถทั้งสองคัน แล้วรีบนำรถไปตรวจเช็กที่ศูนย์บริการหรืออู่ใกล้ ๆ ในทันที
  • หากทำตามทุกขั้นตอนแล้วรถยังสตาร์ทไม่ติด ก็โทรเรียกช่างให้มาตรวจสอบได้เลยครับ

 

ข้อควรระวังในการจั้มแบตรถยนต์ด้วยตนเอง

  • ห้ามต่อสายพ่วงแบตเข้ากับขั้วบวกและขั้วลบของแบตเตอรี่ทั้งสองก้อนพร้อมกัน เนื่องจากอาจทำให้เกิดประกายไฟได้
  • อย่าต่อสายจั๊มแบตเข้ากับจุดกราวด์ของรถที่ไม่ใช่โลหะ เช่น ยางรถยนต์
  • อย่าจั๊มแบตรถยนต์ที่ใกล้กับแหล่งน้ำหรือพื้นที่ที่ชื้น
  • อย่าจั๊มแบตรถยนต์ที่ร้อนจัดหรือเย็นจัด
  • หากคุณไม่แน่ใจว่าต้องทำอย่างไร ให้ติดต่อช่างซ่อมรถยนต์เพื่อขอความช่วยเหลือ

 

ระยะเวลาในการพ่วงแบตเตอรี่

ระยะเวลาในการพ่วงแบตเตอรี่ขึ้นอยู่กับขนาดของแบตเตอรี่และสภาพแบตเตอรี่ หากแบตเตอรี่มีขนาดใหญ่หรือเสื่อมสภาพมาก อาจจำเป็นต้องพ่วงแบตเตอรี่นานขึ้น


ค่าใช้จ่ายในการพ่วงแบตเตอรี่

ค่าบริการพ่วงแบตเตอรี่โดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 300-500 บาท

 

CTA_CTEK XS 5.0

ทางเลือกอื่นในการป้องกันและแก้ไขปัญหาแบตเตอรี่เสื่อม

อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าปัญหาสตาร์ทรถไม่ติดเกิดขึ้นได้ด้วยสองสาเหตุหลัก ๆ นั่นคืออาการแบตเตอรี่เสื่อมและอาการแบตเตอรี่หมด หากแบตเตอรี่หมดก็อาจใช้วิธีจั๊มสตาร์ทเพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ แต่ถ้าสาเหตุมาจากอาการแบตเตอรี่เสื่อมสภาพ เราขอแนะนำวิธีป้องกันและแก้ไขเบื้องต้นดังนี้ครับ

1. เปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่

เปลี่ยนแบตเตอรี่รถใหม่

ในปัจจุบันมีบริการเปลี่ยนแบตรถยนต์นอกสถานที่ครอบคลุมมากมายหลายจังหวัด หากคุณประสบปัญหารถสตาร์ทไม่ติดจากอาการแบตเตอรี่เสื่อม คุณสามารถเลือกใช้บริการเปลี่ยนแบตรถได้เลยไม่ต้องเสียเวลาจั๊มสตาร์ท เพราะถึงแม้การจั๊มแบตรถยนต์จะช่วยให้รถสตาร์ทติดได้ แต่นั่นก็ไม่ใช่การแก้ปัญหาอาการแบตเตอรี่เสื่อมที่ถูกต้อง หากคุณดับเครื่องก็มีโอกาสที่ตัวรถจะสตาร์ทไม่ติดอีก ดังนั้นการเปลี่ยนแบตเตอรี่จึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดครับ

2. อย่าเปิดไฟส่องสว่างทิ้งไว้บนรถ

อย่าเปิดไฟส่องสว่างทิ้งไว้บนรถ

แม้จะฟังดูเป็นเรื่องเล็ก แต่การเผลอลืมเปิดไฟส่องสว่างทิ้งไว้ข้ามคืนบ่อย ๆ ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดอาการแบตเตอรี่หมดได้ เมื่อเกิดปัญหานี้ขึ้นบ่อย ๆ แบตเตอรี่ก็จะมีอายุการใช้งานที่สั้นลงและเสื่อมสภาพไวขึ้น ดังนั้นเพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงไม่ให้เราต้องมาเสียเวลากับการจั๊มสตาร์ทรถ เจ้าของรถทุกท่านจึงต้องหมั่นตรวจเช็กรถให้ดีในทุกครั้งที่จอด ต้องคอยระมัดระวังเรื่องไฟส่องสว่างทุกครั้งก่อนลงจากรถครับ

3. ใช้เครื่องชาร์จแบตเตอรี่ CTEK จากสวีเดน

CTEK MXS 5.0

สำหรับรถที่จอดนาน การใช้เครื่องชาร์จแบตเตอรี่เป็นประจำถือเป็นวิธีป้องกันปัญหาแบตเตอรี่เสื่อมที่มีประสิทธิภาพ เพราะตัวแบตเตอรี่จะคายประจุไฟตลอดเวลาในช่วงที่เราไม่ได้ขับ ทำให้ไม่มีกำลังในการสตาร์ท ซึ่งถ้าหากคุณปล่อยทิ้งไว้เป็นเวลานาน แบตเตอรี่จะเริ่มอ่อนลงเรื่อย ๆ จนตัวแบตเสื่อมในที่สุด แต่ถ้าเราชาร์จแบตเตอรี่ด้วย CTEK เป็นประจำ แบตเตอรี่ก็จะมีสภาพที่สมบูรณ์แม้จอดทิ้งไว้นาน พอเรากลับมาใช้รถก็สามารถสตาร์ทติดได้เลย ไม่ต้องเสียเงินเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ ไม่ต้องเสียเวลาในการจั๊มแบตรถยนต์ เป็นอีกหนึ่งวิธีป้องกันปัญหาแบตเตอรี่เสื่อมที่ต้นเหตุครับ

 

จำไว้นะครับว่าการจั๊มแบตรถยนต์เป็นวิธีแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุ สามารถแก้ไขปัญหาได้แค่ชั่วคราว วิธีที่ดีที่สุดคือการดูแลแบตเตอรี่รถยนต์อย่างสม่ำเสมอ จะได้ไม่ต้องเสียเวลามาคอยจั๊มสตาร์ททุกครั้งที่จะใช้รถด เลือกป้องกันปัญหาแบตเตอรี่เสื่อมจากการจอดนานที่ต้นเหตุ ด้วยเครื่องชาร์จแบตเตอรี่ CTEK MXS 5.0 เครื่องชาร์จแบตเตอรี่อัจฉริยะที่ขายดีที่สุดในท้องตลาด เทคโนโลยีลิขสิทธิ์เฉพาะจากประเทศสวีเดน ใช้งานง่าย ปลอดภัย รับประกัน 5 ปี ไม่ต้องมีความรู้เรื่องช่างก็สามารถใช้งานได้ในทันที มาพร้อมกับระบบตัดไฟอัตโนมัติเมื่อชาร์จเต็ม สามารถชาร์จทิ้งไว้ได้เป็นเดือน ๆ โดยไม่ทำให้แบตเตอรี่เสีย เป็นมิตรกับระบบไฟฟ้าภายในตัวรถอย่างแน่นอน

 

CTEK MXS 5.0 

 

ขอบคุณข้อมูลจาก
www.carsome.co.th/news/item/car-tips-how-to-jump-start

www.b-quik.com/index.php/th/advice/battery/

https://www.dtc.co.th/%E0%B8%84%E0%B8%A

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้