เทอร์โบชาร์จเจอร์ ช่วยเพิ่มพลังเครื่องยนต์อย่างไร?

Last updated: 27 มิ.ย. 2568  |  23 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ในโลกยานยนต์สมัยใหม่เทอร์โบชาร์จเจอร์หรือเทอร์โบชาร์จ ได้กลายเป็นเทคโนโลยีที่ปฏิวัติการขับขี่ด้วยความสามารถในการเพิ่มพลังให้เครื่องยนต์โดยไม่ต้องเพิ่มขนาดเครื่องยนต์ เทคโนโลยีนี้ถูกใช้อย่างแพร่หลาย เช่น ในรถยนต์สมรรถนะสูงอย่าง Porsche Macan ซึ่งผสานทั้งความแรงและความดุดันเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว 

บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักว่า เทอร์โบชาร์จเจอร์คืออะไรและมีการทำงานอย่างไร เพื่อให้เข้าใจว่าเทคโนโลยีนี้ช่วยยกระดับสมรรถนะของรถยนต์ได้อย่างไร

 

Turbo Charger หรือ เทอร์โบชาร์จเจอร์ คืออะไร?

เทอร์โบชาร์จเจอร์ คือ อุปกรณ์ที่ยกระดับสมรรถนะเครื่องยนต์โดยอัดอากาศรอบ ๆ เข้าสู่ห้องเผาไหม้ โดยใช้พลังงานจากไอเสียเพื่อหมุนกังหันและคอมเพรสเซอร์ ส่งผลให้มีอากาศและเชื้อเพลิงมากขึ้นในการเผาไหม้ จึงทำให้เครื่องยนต์ขนาดกะทัดรัดสามารถปลดปล่อยพลังเทียบเท่ากับเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ได้ 

ในขณะเดียวกัน เทอร์โบชาร์จยังช่วยประหยัดน้ำมันและลดการปล่อยมลพิษทางอากาศอีกด้วย เทคโนโลยีนี้สามารถพบได้ทั้งในรถยนต์สมรรถนะสูงและรถยนต์ทั่วไป

 

เทอร์โบชาร์จเจอร์ (Turbo Charger) ทำงานอย่างไร?

เทอร์โบชาร์จเจอร์ทําหน้าที่อะไร? หลักการทำงานของเทอร์โบชาร์จเจอร์ คือ การใช้พลังงานจากไอเสียเพื่อหมุนกังหัน (Turbine) ซึ่งเชื่อมต่อกับคอมเพรสเซอร์ (Compressor) ผ่านแกนกลาง การหมุนนี้จะดูดอากาศจากภายนอก อัดให้มีความหนาแน่นสูง แล้วส่งเข้าไปในห้องเผาไหม้ของเครื่องยนต์ อากาศที่หนาแน่นช่วยให้เผาไหม้เชื้อเพลิงได้มากขึ้น ส่งผลให้เครื่องยนต์มีพลังมากขึ้นโดยไม่ต้องเพิ่มขนาดกระบอกสูบ การทำงานของเทอร์โบชาร์จ จึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและสมรรถนะของเครื่องยนต์อย่างเห็นได้ชัด

 

เทอร์โบชาร์จเจอร์ (Turbo Charger) มีกี่ประเภท?

เทอร์โบชาร์จเจอร์ มีด้วยกัน 7 ประเภท แต่ละประเภทมีการทำงานที่แตกต่างกัน ดังนี้

1. เทอร์โบเดี่ยว (Single Turbo)

เป็นเทอร์โบประเภทพื้นฐานพบได้บ่อยในรถยนต์ทั่วไป ใช้กังหันและคอมเพรสเซอร์เพียงชุดเดียวเพื่อเพิ่มพลังเครื่องยนต์ เหมาะสำหรับเครื่องยนต์ขนาดเล็กถึงขนาดกลาง

2. เทอร์โบแบบมีโข่งไอเสีย 2 ช่อง (Turbo Twin Scroll)

เป็นเทอร์โบแบบมีโข่งไอเสียแยกเป็นสองช่องเพื่อแยกการไหลของไอเสียจากกระบอกสูบ ลดการรบกวนของแรงดันไอเสีย เหมาะสำหรับเครื่องยนต์ที่ต้องการการตอบสนองได้เร็วและใช้ประสิทธิภาพของไอเสียได้เต็มที่ยิ่งขึ้น

3. เทอร์โบบอลแบริ่ง (Ball Bearing Turbo)

เป็นเทอร์โบที่ใช้แบริ่งลูกปืนเป็นตัวรองรับแกนหมุนของใบพัด เพื่อลดแรงเสียดทานและเพิ่มความเร็วในการหมุน ทำให้บูสแรงได้เร็ว ตอบสนองดีขึ้นและทนทานกว่า

4. เทอร์โบแปรผัน VNT (Variable Nozzle Turbo)

เป็นเทอร์โบที่มีใบพัดกังหันปรับมุมได้ตามรอบเครื่องยนต์ ช่วยเพิ่มสมรรถนะของเครื่องยนต์ทั้งในรอบต่ำและรอบสูงได้ดี เหมาะสำหรับรถที่ต้องการสมรรถนะหลากหลาย

5. เทอร์โบคู่ แบบคู่ขนาน (Parallel Turbo)

เป็นระบบเทอร์โบโดยใช้เทอร์โบสองตัวที่มีขนาดเท่ากัน ทำงานพร้อมกัน และให้เทอร์โบทั้งสองทำงานพร้อมกัน เพื่อเพิ่มแรงดันให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น 

6. เทอร์โบแบบอนุกรม (Sequential Turbo)

เป็นระบบที่ใช้เทอร์โบสองตัวที่มีขนาดต่างกัน แต่ทำงานต่อเนื่องกันตามลำดับ โดยเทอร์โบตัวเล็กทำงานในรอบต่ำ และเทอร์โบตัวใหญ่ทำงานในรอบสูง ช่วยลดอาการเทอร์โบแล็ก

7. เทอร์โบแบบ Twin Stage Turbo

เป็นระบบเทอร์โบที่ใช้เทอร์โบตัวเล็กและตัวใหญ่ต่อเข้าด้วยกันแบบอนุกรม โดยเทอร์โบตัวเล็กจะช่วยอัดอากาศเข้าสู่เทอร์โบตัวใหญ่ เพื่อเพิ่มกำลังและประสิทธิภาพของเครื่องยนต์

 

ส่วนประกอบหลักของเทอร์โบชาร์จเจอร์ มีอะไรบ้าง?

เทอร์โบชาร์จเจอร์ มีส่วนประกอบหลักที่ทำงานร่วมกันหลายส่วน ดังนี้

  • กังหัน (Turbine Wheel)

คือ ส่วนที่รับพลังงานจากไอเสียเพื่อหมุนแกนเพลา ทำหน้าที่แปลงพลังงานไอเสียเป็นพลังงานกลเพื่อขับเคลื่อนคอมเพรสเซอร์

  • คอมเพรสเซอร์ (Compressor Wheel) 

คือ ส่วนที่ดูดและอัดอากาศจากภายนอกเข้าสู่เครื่องยนต์ ช่วยเพิ่มปริมาณอากาศในห้องเผาไหม้เพื่อการเผาไหม้ที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น

  • แกนกลาง (Center Housing and Bearings) 

เป็นส่วนที่เชื่อมกังหันและคอมเพรสเซอร์ ภายในมีแบริ่งที่ช่วยให้เพลาหมุนได้อย่างราบรื่นและลดการสึกหรอ

  • วาล์วควบคุมแรงดัน (Wastegate หรือ VGT)

ช่วยควบคุมแรงดันอากาศเข้าสู่เครื่องยนต์ เพื่อป้องกันแรงดันสูงเกินขีดจำกัด นอกจากนี้ช่วยรักษาสมดุลและยืดอายุการใช้งานของเทอร์โบชาร์จอีกด้วย

 

ขั้นตอนการทำงานของเทอร์โบชาร์จเจอร์

การทำงานของเทอร์โบชาร์จเจอร์สามารถแบ่งเป็นขั้นตอนดังนี้:

  1. ไอเสียขับเคลื่อนกังหัน: ไอเสียจากเครื่องยนต์ไหลผ่านโข่งไอเสียเข้าไปหมุนกังหัน (Turbine Wheel)
  2. กังหันหมุนคอมเพรสเซอร์: กังหันเชื่อมต่อกับคอมเพรสเซอร์ผ่านแกนกลาง ทำให้คอมเพรสเซอร์หมุนตาม
  3. อัดอากาศเข้าสู่เครื่องยนต์: คอมเพรสเซอร์ดูดอากาศจากภายนอก อัดให้หนาแน่น แล้วส่งไปยังห้องเผาไหม้ ซึ่งเป็นหนึ่งในคำตอบของคำถามที่ว่าเทอร์โบชาร์จเจอร์ทำหน้าที่อะไร? นั่นก็คือเพิ่มปริมาณอากาศเพื่อเสริมประสิทธิภาพการเผาไหม้ของเครื่องยนต์
  4. ควบคุมแรงดันด้วยวาล์ว: วาล์วควบคุมแรงดัน (Wastegate หรือ VGT) ช่วยปรับปริมาณไอเสียที่เข้าสู่กังหัน เพื่อป้องกันการทำงานเกินกำลัง
  5. เพิ่มประสิทธิภาพการเผาไหม้: อากาศที่หนาแน่นขึ้นช่วยให้เผาไหม้เชื้อเพลิงได้มากขึ้น ส่งผลให้เครื่องยนต์มีพลังมากขึ้น

 

ประโยชน์ของเทอร์โบชาร์จเจอร์ มีอะไรบ้าง?

  • ช่วยเพิ่มกำลังเครื่องยนต์

เทอร์โบชาร์จเจอร์ช่วยเพิ่มปริมาณอากาศในห้องเผาไหม้ ทำให้เผาไหม้เชื้อเพลิงได้มากขึ้น ส่งผลให้เครื่องยนต์มีแรงม้ามากขึ้นโดยไม่ต้องเพิ่มขนาดเครื่องยนต์ 

  • ประหยัดน้ำมัน

เครื่องยนต์ขนาดเล็กที่ติดตั้งเทอร์โบชาร์จ สามารถให้กำลังเทียบเท่าเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ แต่ใช้เชื้อเพลิงน้อยกว่า ช่วยลดค่าใช้จ่าย เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเผาไหม้

  • ลดมลพิษทางอากาศ

เทอร์โบชาร์จเจอร์ทำหน้าที่อัดอากาศให้มีความหนาแน่นสูงขึ้นก่อนส่งเข้าสู่ห้องเผาไหม้ ปริมาณอากาศที่เพียงพอทำให้การเผาไหม้มีประสิทธิภาพ ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และควันดำซึ่งก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศน้อยลง

 

ข้อควรระวังในการใช้เทอร์โบชาร์จเจอร์ (Turbo Charger)

  • ใช้ไส้กรองอากาศและไส้กรองน้ำมันเชื้อเพลิงคุณภาพสูง

ไส้กรองที่มีคุณภาพช่วยลดความเสี่ยงต่อการอุดตันของหัวฉีด และป้องกันปัญหาระบบเผาไหม้ของเทอร์โบชาร์จ

  • หมั่นตรวจสอบน้ำมันเครื่อง

น้ำมันเครื่องที่สะอาดและเหมาะสมช่วยลดการสึกหรอของแบริ่งในเทอร์โบชาร์จเจอร์ ควรเปลี่ยนน้ำมันเครื่องตามระยะที่กำหนด

  • ตรวจสอบระบบท่อไอดีและท่อไอเสีย

ตรวจสอบรอยรั่วหรือการอุดตันในท่อไอดีและไอเสีย เพื่อให้เทอร์โบชาร์จทำงานได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ

 

เทอร์โบชาร์จเจอร์ผสานการทำงานกับระบบเครื่องยนต์ได้อย่างลงตัว ขณะที่ระบบไฟฟ้าก็มีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน โดยเฉพาะแบตเตอรี่ที่ต้องมีพลังงานเพียงพอสำหรับการสตาร์ทและจ่ายไฟให้ระบบต่าง ๆ ในรถยนต์ เครื่องชาร์จแบตเตอรี่ CTEK จึงเป็นตัวช่วยสำคัญที่ดูแลระบบไฟฟ้าให้รถพร้อมใช้งานอยู่เสมอ เช่นเดียวกับเทอร์โบชาร์จเจอร์ที่เสริมพลังให้เครื่องยนต์

 

ดูแลรถให้แรง พร้อมลุยทุกสถานการณ์! ด้วยเครื่องชาร์จแบตเตอรี่ CTEK จากสวีเดน

 

 

เทอร์โบชาร์จเจอร์เปรียบเสมือนกุญแจสำคัญที่ช่วยให้คุณปลดล็อกศักยภาพของเครื่องยนต์ได้อย่างเต็มที่ ไม่ต่างจากการดูแลรักษาแบตเตอรี่รถยนต์ที่เป็นหัวใจของการขับเคลื่อน หากแบตเตอรี่อ่อนหรือหมดไฟ ไม่ว่าเครื่องยนต์ของคุณจะติดตั้งเทอร์โบที่ทรงพลังแค่ไหน รถก็ไม่สามารถสตาร์ทหรือทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ 

โดยเฉพาะผู้ที่มีรถหรู Supercar หลายคัน เมื่อไม่ได้ใช้เป็นประจำทุกวัน ก็อาจเจอปัญหารถสตาร์ทไม่ติด เป็นปัญหาให้หัวเสียน่ารำคาญ อีกทั้งยังต้องคอยเปลี่ยนแบตเตอรี่บ่อย ๆ เพราะแบตฯ เสื่อมไว ทำให้ต้องเสียเงินหลักหมื่นถึงหลักแสนในการเปลี่ยนแบตเตอรี่รถหลายคันอีกด้วย 

ดังนั้นการดูแลแบตเตอรี่รถยนต์ด้วยเครื่องชาร์จแบตเตอรี่อัจฉริยะ CTEK จากสวีเดน จะช่วยแก้ปัญหาที่ทำให้คุณต้องเสียอารมณ์ เสียเวลา เมื่อรถสตาร์ทไม่ติด โดยที่คุณไม่ต้องเอารถไปวนขับให้เสียเวลา นอกจากนี้เครื่องชาร์จแบตเตอรี่อัจฉริยะ CTEK จากสวีเดน ยังมาพร้อมเทคโนโลยีการชาร์จอัจฉริยะช่วยรักษาไฟแบตเตอรี่ให้เต็มอยู่เสมอ รวมถึงการตัดไฟอัตโนมัติ หมดกังวลเรื่องโอเวอร์ชาร์จ เท่านี้ก็สามารถช่วยยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ให้ยาวนานยิ่งขึ้น โดยไม่มีปัญหาแบตเตอรี่มากวนใจ

 

ดูแลรักษาแบตเตอรี่ให้มีอายุการใช้งานยาวนานเต็มประสิทธิภาพ ด้วย เครื่องชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์ CTEK จากสวีเดน ที่ได้รับความไว้วางใจผลิตเครื่องชาร์จแบตฯ ให้กับรถยนต์ชั้นนำมากที่สุดในโลก เช่น Mercedes-Benz, Porsche, Rolls-Royce, Lamborghini, Ferrari, McLaren, Bentley, Maserati, BMW, Mini, Audi, Jaguar, Lexus, Koenigsegg, Chrysler, Jeep และอื่น ๆ อีกมากมาย

 

 

โดยรุ่นที่แนะนำคือ CTEK MXS 5.0 เครื่องชาร์จที่เหมาะกับทั้งรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ รวมถึงรถยนต์ไฟฟ้า (EV) คุณสมบัติเด่น:

- กระแสชาร์จสูงสุด 5A

- เหมาะสำหรับแบตเตอรี่ตะกั่ว-กรด 12V ขนาด 1.2 - 110Ah

- ชาร์จเต็มแล้วตัดไฟอัตโนมัติ 

- ใช้งานง่าย ไม่จำเป็นต้องมีความรู้ด้านช่างก็สามารถใช้งานได้

- เป็นรุ่นขายดีที่สุดในปัจจุบัน

- ไม่ต้องถอดขั้วแบตเตอรี่ ไม่ต้องยกแบตฯออกจากรถ

- ชาร์จทิ้งไว้ได้เป็นเดือนๆ CTEK จะคอยเติมไฟ อัตโนมัติ เมื่อแบตฯ คายประจุ

- ปลอดภัย มีระบบป้องกันการเกิดประกายไฟ ป้องกันการคีบสลับขั้ว

- รับประกัน 5 ปี

ควรชาร์จแบตเตอรี่ด้วย CTEK เป็นประจำสัปดาห์ละครั้ง

ให้รถคันโปรดของคุณพร้อมใช้งานเสมอ แม้ไม่ได้ขับออกไปไหนบ่อย ๆ สั่งซื้อเลยวันนี้!

 

 

CTEK MXS 5.0

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้