Last updated: 29 พ.ค. 2567 | 8787 จำนวนผู้เข้าชม |
แบตเตอรี่เปรียบเสมือนหัวใจของรถยนต์ชิ้นที่ทำหน้าที่จ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับอุปกรณ์ต่าง ๆ ของรถและ เก็บสำรองพลังงานไฟฟ้าไว้ใช้สตาร์ทรถ แบตเตอรี่จึงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ หากแบตเตอรี่เสียหรือมีปัญหา ก็จะทำให้รถสตาร์ทไม่ติด และไม่สามารถใช้งานได้เลยทีเดียว วันนี้ APRTECH จึงได้รวบรวมวิธีดูแลแบตเตอรี่ที่ถูกต้อง มาให้เจ้าของรถที่สนใจได้ลองอ่านและศึกษากันดูครับ
เราควรตรวจสอบระดับน้ำกลั่นในแบตเตอรี่อย่างสม่ำเสมอ เพราะน้ำกลั่นนั้นคือตัวนำไฟฟ้าในแบตเตอรี่ที่ถือเป็นส่วนประกอบสำคัญ ที่ช่วยให้แบตฯสามารถทำงานได้ตามปกติ เจ้าของรถจึงจำเป็นต้องคอยระวังอย่าให้น้ำกลั่นแห้ง ต้องเติมน้ำกลั่นให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมเสมอ โดยเลือกใช้น้ำกลั่นบริสุทธิ์ที่ได้มาตรฐาน ไม่ใช้น้ำกรดหรือน้ำเปล่า เพราะมันอาจส่งผลให้แบตเตอรี่ทำงานได้ไม่เต็มที่ จนสูญเสียแรงดันไฟฟ้าและเสื่อมประสิทธิภาพในที่สุด
ขั้วแบตเตอรี่ที่สกปรกมีขี้เกลือเกาะ ทำให้การนำไฟฟ้าแย่ลง มีผลต่อการจ่ายไฟของแบตเตอรี่ได้ อาจทำให้รถสตาร์ทไม่ติด หรือแบตเตอรี่เสื่อมไว จึงควรหมั่นตรวจสอบขั้วแบตเตอรี่สักหน่อยว่าสะอาด มีขี้เกลือเกาะหรือไม่ หากมีขี้เกลือเกาะก็สามารถล้างขี้เกลือออกได้ง่ายๆโดยใช้โซดา หาแปรงสีฟันเก่าสักด้ามมาจุ่มโซดาแล้วนำมาขัดขั้วแบตเตอรี่จนขี้เกลือละลายออกหมด
การเติมน้ำแบตเตอรี่มากเกินไปมีผลทำให้ขี้เกลือเกาะบนขั้วแบตเตอรี่เพราะเมื่อรถวิ่งแบตเตอรี่ร้อน น้ำในแบตเตอรี่จะเดือดออกมา เพราะฉะนั้นควรเติมน้ำแบตเตอรี่เพียงระดับที่เหมาะสม จะช่วยป้องกันการเกิดขี้เกลือเกาะขั้วแบตเตอรี่ได้
การจอดรถทิ้งไว้เป็นเวลานานส่งผลเสียโดยตรงต่อตัวแบตเตอรี่ หากคุณจอดรถทิ้งไว้นานบ่อยๆ เริ่มแรกอาจมีอาการสตาร์ทยาก หรือสตาร์ทไม่ติดก่อน ถ้ายังปล่อยไว้อีกแบตเตอรี่ก็อาจเสื่อมสภาพในเวลาเพียงไม่กี่เดือน สาเหตุเกิดจากแบตจะคายประจุไฟตลอดเวลา ในช่วงที่รถไม่ได้ขับก็ไม่มีการชาร์จไฟกลับเข้าไป ทำให้ประจุไฟภายในเริ่มอ่อนและหมดลงในที่สุด ทำให้แบตเตอรี่เสื่อม ไม่สามารถใช้งานได้อีกต่อไป ต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่เป็นลูกใหม่เท่านั้น
ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันปัญหารถสตาร์ทไม่ติดจากการจอดนาน คุณควรนำรถออกไปขับอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 ครั้ง เพื่อเป็นการเติมไฟให้แบตเตอรี่ ช่วยป้องกันแบตเตอรี่เสื่อม อาจเป็นเรื่องเสียเวลาแต่ก็เป็นวิธีช่วยยืดอายุแบตเตอรี่ของคุณ และป้องกันปัญหารถสตาร์ทไม่ติดที่แสนจะน่าหัวเสีย แต่ถ้าหากคุณเป็นคนไม่มีเวลา หรือไม่อยากเสียเวลาเอารถไปวนขับ เรามีอีกหนึ่งทางเลือกมาแนะนำคุณ
หากคุณรถจอดรถทิ้งไว้นาน แต่ไม่มีเวลาเอารถไปวนขับ คุณต้องใช้เครื่องชาร์จแบตเตอรี่ชาร์จแบตฯเพื่อเติมประจุไฟให้เต็มอยู่เสมอ เพราะแบตเตอรี่จะมีอายุการใช้งานนานที่สุดเมื่อมีไฟเต็มตลอด
การชาร์จด้วยเครื่องชาร์จแบตรถยนต์ เป็นวิธีดูแลแบตเตอรี่ที่จะช่วยยืดอายุการใช้งานได้อย่างตรงจุด โดยไม่ต้องเสียเวลาเอารถออกไปวนขับ
หากวิธีนี้ฟังดูน่าสนใจสำหรับคุณ ต่อไปเราจะมาแนะนำวิธีเลือกเครื่องชาร์จแบตเตอรี่ให้เหมาะกับรถคุณ
การชาร์จแบตเตอรี่ ไม่ใช่จะใช้เครื่องชาร์จแบตเตอรี่อะไรก็ได้ เพราะไฟฟ้าเป็นเรื่องละเอียดอ่อน และระบบไฟฟ้าของรถและอุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์ในรถมีราคาสูงมาก คุณจึงควรเลือกเครื่องชาร์จแบตเตอรี่ที่มีคุณภาพ มีความน่าเชื่อถือ ได้รับการยอมรับจากผู้ผลิตรถชั้นนำ อย่าคิดว่าเครื่องชาร์จแบตเตอรี่ในตลาดจะเหมือนกันหมด เพราะการใช้เครื่องชาร์จแบตเตอรี่ที่ไม่มีคุณภาพ อาจทำให้ระบบไฟฟ้าของรถเสียหายจนต้องเข้าศูนย์เลยทีเดียว กลายเป็นเสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่าย
ขอแนะนำเครื่องชาร์จแบตเตอรี่ที่มีคุณภาพและ ได้รับการยอมรับจากผู้ผลิตรถชั้นนำมากที่สุดในท้องตลาดคือ เครื่องชาร์จแบตเตอรี่อัจฉริยะ CTEK จากประเทศสวีเดน
CTEK เป็นผู้นำเรื่องเครื่องชาร์จแบตเตอรี่อัจฉริยะ และเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์การชาร์จอัจฉริยะ ที่ปลอดภัยต่อแบตเตอรี่ ต่อระบบไฟของรถ และ ต่อผู้ใช้ โดยคุณสามารถชาร์จ CTEK ทิ้งไว้กับแบตเตอรี่ได้เลย เมื่อชาร์จจนเต็มแล้ว CTEK ก็จะหยุดการชาร์จไฟโดยอัตโนมัติ ไม่เกิดปัญหาการ Overcharge อย่างแน่นอน หากมีรถจอดนาน ก็ต่อ CTEK ทิ้งไว้เลย CTEK จะคอยดูแลไฟในแบตเตอรี่ตลอด เมื่อแบตเตอรี่คายประจุเมื่อไหร่ CTEK ก็จะคอยเติมไฟให้กลับมาเต็มอัตโนมัติ ไม่เพียงหมดปัญหาสตาร์ทไม่ติดเท่านั้น แบตเตอรี่ของคุณจะมีอายุการใช้งานได้นานที่สุดอีกด้วย
ต้องชาร์จแบตเตอรี่บ่อยแค่ไหน
หากมีรถจอดทิ้งนาน ควรชาร์จแบตเตอรี่ด้วย CTEK อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง เพื่อให้แบตเตอรี่มีไฟเต็มอยู่ตลอดเวลา ถ้าจะให้ดีที่สุด แนะนำให้ต่อ CTEK ชาร์จทิ้งไว้เลย เพราะ CTEK จะทำการเติมไฟเมื่อแบตเตอรี่คายประจุ เพื่อรักษาไฟให้เต็มแบตเตอรี่อยู่ตลอด
แต่ถ้ามีรถหลายคัน ไม่รู้จะชาร์จคันไหนก่อนดี CTEK ก็มีตัวช่วยที่จะคอยเตือนให้ชาร์จเมื่อแบตฯเริ่มอ่อน ด้วยไฟบอกสถานะแบตเตอรี่ Indicator Eyelet ที่ติดตั้งเองง่าย ไว้กับขั้วแบตเตอรี่ เมื่อแบตเตอรี่ไฟอ่อนต่ำกว่า 12.4V ก็จะมีไฟกระพริบสีแดง ทำให้รู้ว่าต้องชาร์จแล้ว โดยไฟบอกสถานะนี้จะมีความแม่นยำกว่าตาแมวบนแบตเตอรี่ เพราะตัวอุปกรณ์จะวัดค่าโวลต์จากตัวแบตฯโดยตรง ทำให้เจ้าของรถทราบได้อย่างทันทีว่าต้องชาร์จแบตเตอรี่แล้วหรือไม่ ถือเป็นตัวช่วยที่สายจอดทุกคนไม่ควรพลาดครับ
ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันปัญหารถสตาร์ทไม่ติดโดยไม่ต้องเสียเวลาเอารถไปวนขับ หากมีรถจอดนาน ต้องใช้เครื่องชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์ CTEK MXS 5.0 เครื่องชาร์จแบตเตอรี่อัจฉริยะที่ขายดีที่สุดในท้องตลาด เทคโนโลยีลิขสิทธิ์เฉพาะจากประเทศสวีเดน ใช้งานง่าย ปลอดภัย ไม่ต้องมีความรู้เรื่องช่างก็สามารถใช้งานได้ในทันที มาพร้อมกับระบบตัดไฟอัตโนมัติเมื่อชาร์จเต็ม สามารถชาร์จทิ้งไว้ได้เป็นเดือน ๆ โดยไม่ทำให้แบตเตอรี่เสีย เป็นมิตรกับระบบไฟฟ้าภายในตัวรถอย่างแน่นอน หรืออ่านรีวิวเครื่องชาร์จแบตเตอรี่ CTEK จากผู้ใช้งานจริงก่อนตัดสินใจ พิเศษ! สั่งซื้อตอนนี้รับโปรโมชันราคาพิเศษทันที
ขอบคุณข้อมูลจาก
yukonlubricants.com, kapook.com, enconlab.com, w2energy.com
27 ต.ค. 2567
27 ต.ค. 2567