Last updated: 29 พ.ค. 2567 | 8854 จำนวนผู้เข้าชม |
แบตเตอรี่ถือเป็นชิ้นส่วนสำคัญของรถยนต์ที่เราต้องหมั่นตรวจเช็กและคอยดูแลรักษาอยู่ตลอด หากแบตเตอรี่มีปัญหา มีอาการเสื่อมหรือรถแบตหมด รถยนต์ก็จะสตาร์ทไม่ติด ไม่สามารถใช้งานได้ เกิดเป็นปัญหาน่าปวดหัวให้กับเจ้าของรถอย่างแน่นอน วันนี้เราจึงได้รวบรวมข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับแบตเตอรี่ อย่างแบตรถยนต์เหลือเท่าไหร่ควรเปลี่ยน และวิธีดูแลรักษาที่ถูกต้องมาฝากทุกคนครับ
แบตเตอรี่รถยนต์คืออุปกรณ์ไฟฟ้าที่ทำหน้าที่เก็บพลังงานไฟฟ้าและจ่ายไฟให้กับระบบต่าง ๆ ของรถยนต์ เช่น ระบบสตาร์ท, ระบบไฟส่องสว่าง, ระบบเสียง, และระบบเครื่องเสียง เป็นต้น แบตเตอรี่รถยนต์โดยทั่วไปจะมีแบตเตอรี่ชนิดกรดตะกั่ว ซึ่งเป็นแบตเตอรี่แบบปิดผนึกที่มีน้ำกลั่นอยู่ภายใน โดยน้ำกลั่นจะทำหน้าที่เป็นสารอิเล็กโทรไลต์ในการทำให้เกิดปฏิกิริยาเคมีเพื่อสร้างกระแสไฟฟ้า
ซึ่งในปัจจุบันแบตเตอรี่รถยนต์ก็มีอยู่หลากหลายประเภทด้วย ดังนี้
โดยทั่วไปแล้วแบตเตอรี่รถยนต์จะมีอายุการใช้งานเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 2-5 ปี ขึ้นอยู่กับประเภท ยี่ห้อ คุณภาพ ราคา และพฤติกรรมในการใช้รถ ว่าทะนุถนอมและดูแลรักษาดีมากขนาดไหน หากคุณดูแลแบตเตอรี่เป็นอย่างดี ใช้งานรถเป็นประจำ ไม่จอดทิ้งไว้นานหรือปล่อยให้ไฟหมดจนสตาร์ทไม่ติดบ่อย ๆ แบตเตอรี่ก็จะมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน สามารถใช้ติดต่อได้หลายปีครับ แต่ถ้าคุณดูแลแบตเตอรี่ไม่ดี ปล่อยปละละเลยไม่ดูแลใด ๆ แบตเตอรี่ก็จะเสื่อมสภาพไวขึ้นและมีอายุการใช้งานที่สั้นกว่าปกติ
หากถามว่าแบตรถยนต์เหลือเท่าไหร่ควรเปลี่ยน เราขอแนะนำให้คุณเปลี่ยนแบตเตอรี่เมื่อครบอายุการใช้งานหรือมีอายุการใช้งานมากกว่าที่กำหนดไว้ ในขณะเดียวกันหากแบตเตอรี่เกิดเสื่อมสภาพ จะไม่สามารถใช้งานได้ตามปกติเหมือนเก่า คุณควรรีบเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ในทันทีครับ
การจอดรถทิ้งไว้เป็นระยะเวลานาน ถือเป็นสาเหตุหลักของอาการแบตเตอรี่รถยนต์เสื่อมที่มักพบได้บ่อยกับผู้ที่ไม่มีเวลานำรถออกไปขับ ทำให้อายุการใช้งานของแบตเตอรี่สั้นลงจนเราต้องเปลี่ยนแบตใหม่บ่อย ๆ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เราสามารถป้องกันปัญหาอาการแบตเตอรี่เสื่อมจากการจอดนานได้ง่าย ๆ ด้วยการนำรถออกไปขับอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง หรือเลือกใช้เครื่องชาร์จแบตรถยนต์ CTEK จากสวีเดน คอยชาร์จไฟให้เต็มอย่างสม่ำเสมอ เพราะแบตเตอรี่จะมีอายุการใช้งานที่ยาวนานที่สุดก็ต่อเมื่อมีไฟเต็มอยู่ตลอดเวลานั่นเอง ซึ่งนอกจากจะช่วยป้องกันปัญหาแบตเตอรี่เสื่อมได้อย่างตรงจุดแล้ว เครื่องชาร์จแบตเตอรี่ CTEK ยังช่วยให้เราประหยัดเวลาและประหยัดน้ำมันไปได้อีกมหาศาล ไม่ต้องเหนื่อยนำรถออกไปขับเองอีกด้วยครับ
ที่ชาร์จแบตเตอรี่ CTEK เป็นเครื่องชาร์จแบตเตอรี่อัจฉริยะ ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีลิขสิทธิ์เฉพาะ 8 ขั้นตอนการชาร์จจากประเทศสวีเดน โดย CTEK จะชาร์จไฟด้วยกระแสสูงสุดให้เต็มถึง 80% หลังจากนั้นจะค่อย ๆ ลดกระแสลงพร้อมตัดไฟอัตโนมัติเมื่อชาร์จเต็มเพื่อป้องกันแบตเตอรี่ Overcharge ทำให้เราสามารถชาร์จทิ้งไว้ได้เป็นเดือน ๆ โดยไม่ทำให้ตัวแบตเตอรี่เสีย แบตเตอรี่จึงมีไฟเต็มอยู่ตลอดเวลา ส่งผลให้มีอายุการใช้งานยาวนานเหมือนรถที่ถูกนำไปขับเป็นประจำ
มาป้องกันปัญหาแบตเตอรี่เสื่อมจากการจอดนานที่ต้นเหตุ ด้วยเครื่องชาร์จแบตเตอรี่ CTEK MXS 5.0 และเครื่องชาร์จแบตเตอรี่อัจฉริยะที่ขายดีที่สุดในท้องตลาด เทคโนโลยีลิขสิทธิ์เฉพาะจากประเทศสวีเดน ใช้งานง่าย ปลอดภัย รับประกัน 5 ปี ไม่ต้องมีความรู้เรื่องช่างก็สามารถใช้งานได้ในทันที มาพร้อมกับระบบตัดไฟอัตโนมัติเมื่อชาร์จเต็ม สามารถชาร์จทิ้งไว้ได้เป็นเดือน ๆ โดยไม่ทำให้แบตเตอรี่เสีย เป็นมิตรกับระบบไฟฟ้าภายในตัวรถอย่างแน่นอน
ขอบคุณข้อมูลจาก
18 พ.ย. 2567
21 มิ.ย. 2567
18 พ.ย. 2567
18 พ.ย. 2567