Last updated: 29 มี.ค. 2567 | 48101 จำนวนผู้เข้าชม |
ซื้อรถยนต์ไฟฟ้าดีไหม? เป็นคำถามที่มาพร้อมกระแสความน่าสนใจของรถยนต์ไฟฟ้า และด้วยความที่คนส่วนใหญ่ยังคุ้นเคยกับการใช้รถยนต์สันดาปแบบเดิม จึงทำให้หลายคนอาจจะยังสงสัยว่า ถ้าจะซื้อรถยนต์ไฟฟ้าสักคัน มีข้อดีข้อเสียอะไรบ้าง เราไปหาคำตอบกัน
เรื่องของค่าใช้จ่าย หรือค่าพลังงาน เป็นปัจจัยสำคัญอันดับต้น ๆ ที่ทำให้คนส่วนใหญ่เริ่มหันมาสนใจรถยนต์ไฟฟ้ากันมากขึ้น ซึ่งเมื่อเทียบค่าพลังงานเฉลี่ยของรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเบนซิน หรือดีเซล จะมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ ลิตรละ 30-40 บาท
ส่วนรถยนต์ไฟฟ้า มีค่าใช้จ่ายด้านพลังงานที่ความแตกต่างกันตามประเภทของการชาร์จ เช่น
ซึ่งไฟฟ้า 1 หน่วย จะสามารถขับเคลื่อนรถยนต์ไฟฟ้าได้ระยะทางราว 4-7 กิโลเมตร/หน่วย เลยทีเดียว หากเปรียบเทียบค่าพลังงานต่อกิโลเมตรแล้ว พบว่ารถยนต์ไฟฟ้าประหยัดค่าใช้จ่ายมากกว่า
ด้วยความที่พลังงานไฟฟ้าถือว่าเป็นสิ่งที่เข้าถึงง่าย เพราะนับเป็นปัจจัยพื้นฐานสำหรับการใช้ชีวิต ทำให้แม้ว่าจะเดินทางใกล้ หรือไกล รถยนต์ไฟฟ้าก็ยังสามารถชาร์จพลังงานจากสถานีชาร์จได้ง่าย หรือแม้แต่ยามคับขันแล้ว รถยนต์ไฟฟ้าก็สามารถชาร์จแบตเตอรี่จากปลั๊กไฟธรรมดาได้ด้วยเช่นกัน แต่จะใช้เวลาการชาร์จที่ยาวนานกว่า
นอกจากนี้แล้ว พลังงานไฟฟ้ายังถือเป็นพลังงานที่ไม่มีการรวมศูนย์กลาง ไม่มีใครเป็นเจ้าของอย่างผูกขาด เพราะแสงอาทิตย์สามารถเปลี่ยนมาเป็นพลังงานไฟฟ้าได้ด้วยเช่นกัน ด้วยการผลิตจากโซลาร์เซลล์นั่นเอง อีกทั้งรถยนต์ไฟฟ้าก็เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วยการที่มันไม่มีการคายไอเสียออกมานั่นเอง ทำให้มันสามารถใช้งานในสถานที่ปิดได้
รถยนต์ไฟฟ้าก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยลดอากาศเสีย ซึ่งก็จะสอดคล้องกับนโยบายด้านสิ่งแวดล้อม และนโยบายลดโลกร้อนที่รัฐบาลหลาย ๆ ประเทศต่างให้การสนับสนุน
และด้วยเหตุผลนี้ส่งผลให้รัฐบาลหลาย ๆ ประเทศที่มีความต้องการผลักดันยานยนต์ไฟฟ้าให้มีเพิ่มขึ้น หรือตั้งเป้าให้มาทดแทนรถยนต์สันดาปแบบเดิม จึงมีมาตรการสนับสนุนจากทางภาครัฐอยู่หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นส่วนลดการซื้อรถยนต์ไฟฟ้า , สิทธิพิเศษทางภาษี หรือสิทธิพิเศษอื่น ๆ สำหรับผู้ที่ต้องการซื้อรถยนต์ไฟฟ้า
การชาร์จแบตเตอรี่ที่ใช้เวลาในการเติมพลังงานช้ากว่าการเติมน้ำมันนับสิบเท่าถือเป็นจุดอ่อนที่สำคัญ แม้ว่าปัจจุบันนี้เทคโนโลยีการชาร์จแบตเตอรี่ความเร็วสูงจะพัฒนาไปอย่างก้าวกระโดด แต่สุดท้ายก็ยังช้ากว่าการเติมน้ำมันอยู่ดี
ปัจจุบันนี้ระยะทางขับขี่ของรถยนต์ไฟฟ้ายังถูกจำกัดด้วยความจุของแบตเตอรี่และประสิทธิภาพของมอเตอร์ไฟฟ้า แม้เทคโนโลยีด้านแบตเตอรี่จะถูกพัฒนาอยู่อย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยระยะทางต่อราคาของรถยนต์ไฟฟ้าที่นับว่ายังค่อนข้างสูงอยู่ จึงเป็นอีกหนึ่งจุดอ่อนของรถยนต์ไฟฟ้าเมื่อเทียบกับรถที่ใช้น้ำมัน
ทุกวันนี้มีอู่ซ่อมรถยนต์สันดาปอยู่อย่างมากมาย แตกต่างจากอู่ซ่อมรถยนต์ไฟฟ้าที่แม้ว่าจะมีเหมือนกัน แต่ก็มักจะเป็นอู่เฉพาะทาง และมีจำนวนที่น้อยมาก ๆ ไม่ได้หาง่ายเหมือนกับอู่ซ่อมรถยนต์ที่ใช้น้ำมัน และในหลาย ๆ กรณีหากเกิดปัญหาขึ้นมาก็ต้องเข้าศูนย์บริการเท่านั้น
สรุปโดยรวมแล้วรถยนต์ไฟฟ้ามีข้อดีอยู่มากมาย เช่น ประหยัดค่าใช้จ่าย ซึ่งเป็นจุดเด่นที่สุดสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าเลยทีเดียว นอกจากนี้รถยังดูแลรักษาได้ง่าย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ส่วนข้อเสียก็คือ ต้องใช้เวลาในการชาร์จนานกว่าเติมน้ำมัน ซึ่งก็นับเป็นจุดด้อยที่สุดเมื่อเทียบกับรถยนต์เครื่องสันดาปแต่ก็แก้ไขไม่ยากหากบริหารเวลาดี ๆ
นอกจากนี้รถยนต์ไฟฟ้ายังเหมาะกับคนที่มีพื้นที่ส่วนตัวมากกว่า เพราะการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าให้คุ้มค่าที่สุด เราต้องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่บ้าน และเราต้องติดมิเตอร์แบบ TOU ด้วย แต่ถ้าหากเราอยู่ในพื้นที่อาศัยส่วนรวม หรือสถานที่ที่ไม่มีที่จอดรถประจำ อาทิเช่น คอนโดมิเนียม , หอพัก , อพาร์ทเมนท์ ส่วนใหญ่ก็มักจะไม่มีที่ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าติดตั้งไว้ในลานจอดรถ ซึ่งก็จะทำให้ต้นทุนต่อการชาร์จแพงขึ้นนั่นเอง
มาป้องกันปัญหาแบตเตอรี่เสื่อมจากการจอดนานที่ต้นเหตุ ด้วยเครื่องชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์ CTEK MXS 5.0 และ CTEK XS 0.8 เครื่องชาร์จแบตเตอรี่อัจฉริยะที่ขายดีที่สุดในท้องตลาด เทคโนโลยีลิขสิทธิ์เฉพาะจากประเทศสวีเดน ใช้งานง่าย ปลอดภัย รับประกัน 5 ปี ไม่ต้องมีความรู้เรื่องช่างก็สามารถใช้งานได้ในทันที มาพร้อมกับระบบตัดไฟอัตโนมัติเมื่อชาร์จเต็ม สามารถชาร์จทิ้งไว้ได้เป็นเดือน ๆ โดยไม่ทำให้แบตเตอรี่เสีย เป็นมิตรกับระบบไฟฟ้าภายในตัวรถอย่างแน่นอน
ดูแลรถยนต์ของคุณก่อนสาย เริ่มต้นชาร์จแบตเตอรี่ตั้งแต่วันนี้ด้วย CTEK จากสวีเดน สั่งซื้อตอนนี้ รับโปรโมชันราคาพิเศษทันที
ขอบคุณข้อมูลจาก : Autospinn
30 ก.ย. 2567
23 พ.ค. 2566
30 ก.ย. 2567