Last updated: 29 พ.ค. 2567 | 3202 จำนวนผู้เข้าชม |
ก่อนออกเดินทางไกล การที่เราต้องเช็กสภาพรถถือเป็นเรื่องที่ควรทำอย่างนึง เพราะการตรวจเช็กรถก่อนออกเดินทางไกลจะช่วยป้องกันอุบัติเหตุ หรือเหตุการณ์ที่เราอาจคาดไม่ถึงได้ เราจึงมี 5 เช็กลิสต์ เช็ครถก่อนเดินทางไกล สำหรับผู้ใช้รถที่สามารถทำตามได้ด้วยตัวเองมาฝากกันครับ
สิ่งแรกที่เราควรคำนึงถึงก่อนเดินทางไกลนั่นคือยางรถยนต์ เพราะยางรถเป็นสิ่งเดียวที่สัมผัสกับผิวถนนขณะที่คุณเดินทางไกล การที่ขับรถเป็นระยะเวลานาน ทำให้ยางของเราทำงานหนักและอาจผลอันตรายให้กับเราหากไม่ดูแลเป็นอย่างดี โดยสิ่งที่เราต้องดูได้แก่
ลายดอกยาง หรือที่เราเรียกกันว่า ดอกยางรถนั้น ทริคเล็ก ๆ ที่เราสามารถนำไปใช้ได้นั่นก็คือการนำเหรียญ 5 หรือ 10 บาท ไปวางในแนวตั้ง ระหว่างดอกยาง หลังจากนั้นให้สังเกตว่าเราเห็นเหรียญของเราได้มากน้อยแค่ไหน ถ้าเห็นน้อยหมายความว่า ยางยังใช้งานได้อยู่ แต่ถ้าเห็นเกินครึ่งของเหรียญหรือมากกว่านั้น แนะนำให้เปลี่ยนยางก่อนออกเดินทาง เพราะยางของคุณได้ผ่านการใช้งานมาพอสมควรแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือลมยาง หมั่นเช็คลมยางรถบ่อยๆ ถ้าหากไม่แน่ใจว่าควรเติมลมเท่าไหร่ หรือลมยางควรอยู่ที่ระดับเท่าไหร่ สามารถเช็คได้ตามข้างประตูรถได้เลย
สิ่งที่เป็นเรื่องที่ผู้ขับขี่ไม่อยากเจอคือการที่จะเราจะเริ่มเดินทางแล้วแบตเตอรี่รถยนต์ของเราไม่ทำงาน หรือ รถสตาร์ทไม่ติด ซึ่งเราสามารถเช็คหรือดูง่าย ๆ เลยโดยการที่เราลองสตาร์ทรถก่อนวันที่จะออกทริป ถ้ามีสิ่งปกติเช่น การสตาร์ทขัดข้อง สตาร์ทช้า หรือไฟในรถไม่ติดเลย แนะนำให้โทรเรียกให้ช่างมาเปลี่ยนแบตเตอรี่
ระบบไฟในรถและระบบไฟรอบรถถือว่าเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญซึ่งหลายท่านมักมองข้าม เพราะด้วยเป็นสิ่งที่เราคิดว่ามันต้องติด มันต้องใช้ได้ แต่สิ่งเหล่านี้ก็สามารถเกิดข้อผิดพลาดได้เช่นกัน การเช็กที่ง่ายที่สุดคือการที่เราเปิดไฟทุกอย่างในรถและเดินวนรอบคัน เริ่มจาก ไฟในรถ ไฟเลี้ยวทั้งหน้าและหลัง ไฟฉุกเฉิน ไฟหน้า (ไฟสูง ไฟตัดหมอก) ไฟท้าย และไฟอื่น ๆ ที่รถของคุณมี
การเช็กระบบหล่อเย็นหรือ หม้อน้ำทำได้ง่าย ๆ เลยคือการที่เราดูระดับของเหลวให้อยู่ตามที่ตัวหม้อน้ำกำหนดไว้ ถ้าหากพอดี ต่ำกว่าระดับนิดหน่อย หรือ เกินไปนิดหน่อย นั่นถือว่าปกติ แต่ถ้าหากน้อยเกินไป แนะนำให้ซื้อน้ำยาเติมหม้อน้ำหรือ Coolant มาเติมให้ถึงระดับ
วิธีการตรวจสอบน้ำมันเครื่องนั้น จริง ๆ แล้วไม่ใช่เป็นเรื่องที่ยุ่งยากและเลอะเทอะแต่อย่างใด เพียงแค่เราต้องเตรียมผ้าเก่าๆ หรือผ้าที่เราไม่ใช้ และจอดในพื้นที่ราบ ไม่ลาดเอียง จากนั้นมองหาก้านวัดระดับน้ำมันเครื่อง และสามารถดึงก้านวัดน้ำมันเครื่องออกมาได้เลย
หลังจากนั้นให้เช็ดทำความสะอาดน้ำมันเครื่องที่ติดกับก้านวัดออกด้วยผ้าที่เราเตรียมไว้ แล้วเสียบก้านวัดระดับน้ำมันเครื่องคืนกลับจุดเดิม เพื่อตรวจเช็กระดับน้ำมันเครื่องที่มีอยู่ในอ่างน้ำมันเครื่อง
เสร็จแล้วให้คุณดึงก้านวัดระดับน้ำมันเครื่องออกมาอีกหนึ่งครั้งเพื่อตรวจสอบระดับน้ำมันเครื่อง ถ้าระดับน้ำมันเครื่องอยู่ระหว่างขีด F กับ L หรือ Max กับ Min แสดงว่าน้ำมันเครื่องอยู่ในระดับปกติ ไม่มากเกินไปและไม่น้อยเกินไป แนะนำให้เช็คทุกๆ 1-2 สัปดาห์ ต่อหนึ่งครั้งหรืออย่างน้อยเลยคือ เดือนละครั้ง
แค่คุณทำตาม 5 เช็กลิสต์ วิธีเช็ครถก่อนเดินทางไกลที่เรานำมาฝาก การออกทริปเดินทางไกลของคุณก็หายห่วงได้ระดับนึง แต่เรายังต้องเตรียมรถให้พร้อมก่อนออกเดินทาง โดยเฉพาะเจ้าของรถสายจอดที่ไม่มีเวลานำรถออกไปขับ คุณก็ควรใช้เครื่องชาร์จแบตรถยนต์เพื่อคอยชาร์จไฟให้เต็มอยู่ตลอด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอาการแบตเตอรี่รถยนต์เสื่อมจากการจอดรถทิ้งไว้เป็นเวลานาน เพราะตัวแบตเตอรี่จะคายประจุไฟตลอดเวลาในช่วงที่เราไม่ได้ขับ ทำให้ไฟในตัวแบตอ่อนลงเรื่อย ๆ จนทำให้เกิดปัญหารถสตาร์ทไม่ติด ซึ่งถ้าหากปล่อยทิ้งไว้เป็นเวลานาน แบตเตอรี่ก็จะเริ่มเสื่อมสภาพและไม่สามารถใช้งานได้ในที่สุด
ป้องกันแบตเตอรี่เสื่อมจากการจอดนาน ด้วยเครื่องชาร์จแบตเตอรี่ CTEK MXS 5.0 และ CTEK XS 0.8 เครื่องชาร์จแบตเตอรี่อัจฉริยะที่ขายดีที่สุดในท้องตลาด เทคโนโลยีลิขสิทธิ์เฉพาะจากประเทศสวีเดน ใช้งานง่าย ปลอดภัย รับประกัน 5 ปี ไม่ต้องมีความรู้เรื่องช่างก็สามารถใช้งานได้ในทันที มาพร้อมกับระบบตัดไฟอัตโนมัติเมื่อชาร์จเต็ม สามารถชาร์จทิ้งไว้ได้เป็นเดือน ๆ โดยไม่ทำให้แบตเตอรี่เสีย เป็นมิตรกับระบบไฟฟ้าภายในตัวรถอย่างแน่นอน
ดูแลรถยนต์ของคุณก่อนสาย เริ่มต้นชาร์จแบตเตอรี่ตั้งแต่วันนี้ด้วย CTEK จากสวีเดน สั่งซื้อเลย!
พิเศษ! สั่งซื้อตอนนี้รับโปรโมชันราคาพิเศษทันที
ขอบคุณข้อมูลจาก
30 ก.ย. 2567
30 ก.ย. 2567
23 พ.ค. 2566