รวมเทคนิคการดูแลรถยนต์ช่วงหน้าร้อนที่คุณไม่ควรมองข้าม

อย่างที่เราทราบกันดีว่าฤดูร้อนประเทศไทยนั้น ส่งผลกระทบต่อรถยนต์ได้มากขนาดไหน เพราะรถยนต์ถือเป็นยานพาหนะละเอียดอ่อน ที่อาจเกิดปัญหาขึ้นได้เพียงเพราะอุณหภูมิที่เปลี่ยนไป โดยเฉพาะเจ้าของรถสายจอด ที่ต้องจอดรถตากแดดทิ้งไว้เป็นเวลานาน นอกจากต้องคอยระวังป้องกันไม่ให้แบตเตอรี่เสื่อมจนต้องเปลี่ยนแบตรถยนต์บ่อย ๆ แล้ว ชิ้นส่วนภายในอื่น ๆ ก็อาจได้รับผลกระทบจากความร้อนจนเกิดความเสียหายได้เช่นกัน วันนี้ APRTECH จึงได้รวบรวมเทคนิคดูแลรถยนต์ช่วงหน้าร้อนที่คุณอาจมองข้ามไปมาฝากครับ

1.หลีกเลี่ยงการจอดรถทิ้งไว้กลางแดด

อุณหภูมิช่วงหน้าร้อนของประเทศไทยนั้นสูงถึง 40-43 องศาฯ (ปี 2023) ซึ่งถือเป็นอุณหภูมิที่อาจส่งผลกระทบต่อรถยนต์ที่จอดทิ้งไว้กลางแดดเป็นเวลานานได้ ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงการจอดรถทิ้งไว้กลางแดดเป็นเวลานาน หากคุณเลือกได้คุณควรนำรถไปจอดในพื้นที่ที่เหมาะสม เลือกจอดในที่ร่ม หรือสถานที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหามากมายที่อาจตามมา เช่น

• อายุการใช้งานของเครื่องยนต์จะสั้นลง เมื่อเครื่องยนต์และชิ้นส่วนภายในมีอุณหภูมิที่ร้อนจัดตลอดเวลา มันจะเริ่มสึกหรอและมีอายุการใช้งานที่สั้นลง โดยเฉพาะของเหลวต่าง ๆ ที่จะเสื่อมสภาพอย่างรวดเร็ว
• อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เสียหาย อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ ที่อยู่ในห้องโดยสารอาจเกิดความเสียหายหรือเสื่อมสภาพได้เช่นกัน เพราะรถที่จอดกลางแดดนาน ๆ จะเป็นเหมือนเตาอบขนาดใหญ่ที่มีอุณหภูมิสูงและมีความร้อนอบอวลตลอดเวลา แค่จอดทิ้งไว้ข้ามวันก็สามารถทำให้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อย่างโน๊ตบุ๊ค โทรศัพท์มือถือ หรือแท็บเล็ตเสียหายได้แล้ว
• อุปกรณ์ที่เป็นยางจะเสื่อมสภาพ อุณหภูมิที่ร้อนจัดจะทำให้อุปกรณ์ที่เป็นยางเสื่อมสภาพไวกว่าเวลาอันควร เช่น ยางรถยนต์ ขอบกระจกที่เป็นยาง หรือที่ปัดน้ำฝน ก็จะเกิดเริ่มแข็งกระด้าง ขาดความยืดหยุ่น จนอาจเสียหายและไม่สามารถใช้งานได้อีก
• สีรถซีดจางเร็ว ในแสงแดดที่สาดลงมาจะมีคลื่นความถี่ที่ทำให้สีรถซีดและจางเร็ว อันได้แก่ รังสียูวีเอ, รังสียูวีบี, รังสียูวีซี และรังสีอินฟราเรด ที่นอกจากจะเป็นอันตรายต่อรถยนต์แล้ว มันยังเป็นอันตรายต่อผิวหนังของมนุษย์อีกด้วยครับ

2.หมั่นเช็กลมยางเป็นประจำ

อย่างที่กล่าวไปข้างต้นครับว่าความร้อนจะส่งผลให้อุปกรณ์ที่เป็นยางเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ โดยเฉพาะยางรถยนต์ที่เราต้องคอยให้ความสำคัญเป็นพิเศษ คุณจึงควรตรวจเช็กลมยางอย่างสม่ำเสมอ อย่าปล่อยให้ยางอ่อน เพราะความร้อนจะทำให้แก้มยางเกิดการบิดตัวมากกว่าปกติ ส่งผลให้แรงดันภายในของยางสูงขึ้นจนอาจเกิดการระเบิดได้ ดังนั้นหากคุณพบว่ายางมีอาการบวมอย่างชัดเจน คุณควรรีบนำรถเข้าอู่หรือเปลี่ยนยางใหม่ในทันที เพื่อความปลอดภัยในตอนใช้รถครับ การตรวจเช็กยางรถเป็นประจำจึงถือเป็นอีกหนึ่งวิธีดูแลรถยนต์ที่ทุกคนไม่ควรมองข้าม

3.อย่าเร่งแอร์สู้ความร้อน

หากขึ้นรถมาแล้วรู้สึกว่าอากาศภายในรถร้อนจัด คุณไม่ควรเปิดแอร์แล้วเร่งแอร์สู้ความร้อน เพราะจะทำให้เครื่องปรับอากาศทำงานหนักเกินไป ควรเปิดกระจกทิ้งไว้ก่อนเปิดแอร์ทุกครั้งสัก 3-5 นาทีแทน เพื่อทำให้อุณหภูมิในรถลดลงโดยไม่ต้องเร่งการทำงานของแอร์ให้สิ้นเปลือง และอย่าลืมหมั่นตรวจเช็กระบบแอร์เป็นประจำ และคุณต้องคอยตรวจสอบว่าปริมาณน้ำยาแอร์เหลืออยู่มากน้อยขนาดไหน เพื่อไม่ให้เครื่องปรับอากาศต้องมาเสียกะทันหันเวลาคุณกำลังเดินทางในช่วง

4.ติดตั้งฟิล์มกรองแสงเพิ่มเติม

การติดฟิล์มกรองแสงถือเป็นอีกหนึ่งวิธีดูแลรถยนต์ช่วงหน้าร้อน ที่สามารถลดอุณหภูมิจากแสงแดดได้มากถึง 68% พร้อมช่วยป้องกันรังสีอัลตราไวโอเลตได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยลดความร้อนในห้องโดยสาร ช่วยลดภาระการทำงานของเครื่องปรับอากาศ อีกทั้งยังช่วยกรองแสงสะท้อนที่ส่องเข้ามาตอนขับขี่ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

5.อย่าเร่งเครื่องมากเกินไป

เวลาขับรถช่วงหน้าร้อนคุณควรใช้ความเร็วที่พอดี อย่าเร่งเครื่องมากเกินไป เพราะมันจะทำให้เครื่องยนต์และชิ้นส่วนภายในมีอุณหภูมิสูงขึ้นหลายเท่า ซึ่งอาจทำให้อายุการใช้งานของเครื่องยนต์สั้นลง หรือเกิดความเสียหายขึ้นได้โดยไม่จำเป็น ดังนั้นตอนขับขี่คุณจึงควรใช้ความเร็วที่เหมาะสม พยายามใช้ความเร็วตามที่กฎหมายกำหนด อย่าเร่งเครื่องหรือเบิ้ลเครื่องบ่อย ๆ เกินความจำเป็นครับ

6.อย่าขับรถติดต่อกันเป็นเวลานาน

การขับรถติดต่อกันเป็นเวลานานในช่วงหน้าร้อน ถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่คุณควรหลีกเลี่ยงและไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่งครับ หากคุณต้องเดินทางไกลต้องขับรถติดต่อกันเป็นเวลานาน คุณควรจอดแวะพักบ้างเพื่อให้เครื่องยนต์และชิ้นส่วนภายในไม่ร้อนจนเกินไป คุณต้องหมั่นสังเกตอาการเครื่องยนต์เวลาขับขี่ ต้องคอยดูเข็มวัดอุณหภูมิที่หน้าปัดรถตลอด ว่าเครื่องยนต์มีอุณหภูมิสูงเกินไปหรือไม่ หากพบว่าเครื่องยนต์ร้อนจนเกินไป คุณก็ควรรีบปิดแอร์และนำรถจอดพักข้างทางทันทีครับ

นอกจากปัญหาทั้งหมดที่ว่ามานี้ การจอดรถทิ้งไว้เป็นเวลานานช่วงหน้าร้อน ก็อาจส่งผลให้แบตเตอรี่รถเกิดเสื่อมสภาพก่อนเวลาอันควรได้ เพราะแบตเตอรี่จะคายประจุไฟตลอดเวลาในช่วงที่เราไม่ได้ขับ และความร้อนจะทำให้แบตเตอรี่เสื่อมไวขึ้น ทำให้ไม่มีกำลังในการสตาร์ท ซึ่งถ้าหากคุณปล่อยทิ้งไว้ไม่รีบแก้ไข แบตเตอรี่จะเริ่มอ่อนลงเรื่อย ๆ จนตัวแบตเสื่อมในที่สุด ดังนั้นถ้าหากคุณต้องจอดรถทิ้งไว้เป็นเวลานาน คุณก็ควรใช้เครื่องชาร์จแบตเตอรี่คอยชาร์จไฟให้เต็มอยู่เสมอ เพื่อยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ให้ยาวนาน เหมือนรถที่ถูกใช้งานเป็นประจำครับ

ป้องกันแบตเตอรี่เสื่อมจากการจอดนาน ด้วยเครื่องชาร์จแบตเตอรี่ CTEK MXS 5.0 และ CTEK XS 0.8 เครื่องชาร์จแบตเตอรี่อัจฉริยะที่ขายดีที่สุดในท้องตลาด เทคโนโลยีลิขสิทธิ์เฉพาะจากประเทศสวีเดน ใช้งานง่าย ปลอดภัย รับประกัน 5 ปี ไม่ต้องมีความรู้เรื่องช่างก็สามารถใช้งานได้ในทันที มาพร้อมกับระบบตัดไฟอัตโนมัติเมื่อชาร์จเต็ม สามารถชาร์จทิ้งไว้ได้เป็นเดือน ๆ โดยไม่ทำให้แบตเตอรี่เสีย เป็นมิตรกับระบบไฟฟ้าภายในตัวรถอย่างแน่นอน


ดูแลรถยนต์ของคุณก่อนสาย เริ่มต้นชาร์จแบตเตอรี่ตั้งแต่วันนี้ด้วย CTEK จากสวีเดน สั่งซื้อเลย!

พิเศษ! สั่งซื้อตอนนี้รับโปรโมชันราคาพิเศษทันที

ขอบคุณข้อมูลจาก
roojai.com
99autocare.com