7 ข้อต้องระวัง ถ้าไม่อยากให้แบตเตอรี่รถเสื่อมก่อนเวลาอันควร

อย่างที่เราทราบกันดีว่าอาการแบตเตอรี่รถยนต์เสื่อมเป็นปัญหาน่าปวดหัวที่ผู้ใช้รถทุกคนไม่อยากให้เกิดขึ้น เพราะแบตเตอรี่รถยนต์ในยุคปัจจุบันนี้ไม่ได้มีราคาถูกจนสามารถซื้อเปลี่ยนกันได้บ่อย ๆ หากแบตเตอรี่ของคุณเกิดเสื่อมสภาพและไม่สามารถใช้งานได้อีกต่อไป นั่นย่อมหมายถึงค่าใช้จ่ายที่จะต้องเพิ่มขึ้นและเวลาอีกมากที่จะต้องเสียไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ วันนี้ APRTECH จึงได้รวบรวม 7 ปัจจัยเสี่ยงที่อาจส่งผลให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพ มาให้เจ้าของรถทุกคนได้ลองอ่านและศึกษากันดูครับ

1. จอดรถทิ้งไว้นานเกินไป 

การจอดรถทิ้งไว้เป็นเวลานาน ถือเป็นสาเหตุหลักของอาการแบตเตอรี่รถเสื่อมที่พบได้บ่อยเป็นอันดับต้น ๆ เพราะตัวแบตเตอรี่จะคลายประจุไฟตลอดเวลาในช่วงที่เราไม่ได้ขับ ทำให้กระแสไฟในตัวแบตอ่อนลงเรื่อย ๆ จนแบตเตอรี่เริ่มเสื่อมสภาพเกิดอาการรถแบตหมด และไม่สามารถใช้งานได้ในที่สุด ปัญหานี้สามารถแก้ไขและป้องกันได้ด้วยการนำรถออกไปวนขับสัปดาห์ละครั้ง แต่ถ้าคุณไม่มีเวลานำรถออกไปขับ คุณก็ควรใช้เครื่องชาร์จแบตเตอรี่คอยชาร์จไฟให้เต็มอยู่เสมอ เพื่อป้องกันไม่ให้แบตเตอรี่เสื่อมจากการจอดนาน วิธีนี้ถือเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สายจอดทุกคนเลือกใช้ครับ

2. เลือกใช้แบตเตอรี่ไม่เหมาะสมกับตัวรถ

หากเราเลือกใช้แบตเตอรี่ที่มีแอมป์น้อยเกินไป ไดชาร์จก็จะส่งกระแสไฟมายังแบตเตอรี่ในสัดส่วนที่มากเกินหรือที่เรียกว่า Overcharge ซึ่งมันจะส่งผลให้แบตเตอรี่เต็มเร็ว ร้อนเร็ว และมีไฟเข้าตลอดเวลาในปริมาณที่มากเกินความจำเป็น นี่จึงถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้ตัวแบตเตอรี่มีอาการเสื่อมสภาพและมีอายุการใช้งานที่สั้นลง ดังนั้นเราจึงควรเลือกใช้แบตเตอรี่ให้เหมาะสมกับตัวรถ ต้องทำการศึกษาและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทุกครั้งก่อนซื้อแบตเตอรี่ครับ

3. เผลอเปิดไฟส่องสว่างทิ้งไว้ทั้งคืน

การเผลอเปิดไฟส่องสว่างของรถทิ้งไว้ทั้งคืน ถือเป็นปัจจัยเสี่ยงที่อาจทำให้แบตเตอรี่รถเสื่อมสภาพก่อนเวลาอันควร เพราะตัวแบตเตอรี่จะทำการจ่ายพลังงานไฟฟ้าไปยังหลอดไฟที่เปิดอยู่ตลอดจนไฟหมด ซึ่งการปล่อยให้แบตเตอรี่ไฟหมดบ่อย ๆ นี่เอง ที่ส่งผลเสียและทำให้อายุการใช้งานของตัวแบตสั้นลง ดังนั้นหลังจอดรถทุกครั้งคุณก็ควรตรวจเช็กไฟในห้องโดยสารและไฟส่องสว่างทั่วทั้งคันดูว่ามีดวงไหนที่เปิดค้างไว้หรือไม่

4. ดัดแปลงไดชาร์จ

สำหรับรถแต่งส่วนใหญ่นั้นอาจมีการดัดแปลงไดชาร์จ เพื่อทำให้ไดชาร์จชาร์จไฟได้เร็วมากยิ่งขึ้น การกระทำนี้ส่งผลเสียโดยตรงต่อตัวแบตเตอรี่ เพราะมันจะทำให้แบตเตอรี่ได้รับพลังงานไฟฟ้ามากเกินไปจนเกิดเป็นการ Overcharge ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยเสี่ยงที่อาจทำให้แบตเตอรี่รถเสื่อมสภาพจนไม่สามารถใช้งานได้อีก ดังนั้นเราจึงไม่ควรดัดแปลงไดชาร์จหากไม่มีความจำเป็นครับ

อ่านเพิ่มเติม: รวมสัญญาณเตือนอาการไดชาร์จเสียที่เจ้าของรถควรรู้

5. น้ำกลั่นสกปรกหรือมีสิ่งผิดปกติปนเปื้อน

ขอบคุณภาพจาก: realtimecarmagazine.com

น้ำกลั่นถือเป็นอีกหนึ่งส่วนประกอบสำคัญที่อยู่ในแบตเตอรี่ หากน้ำกลั่นมีสิ่งแปลกปลอมหรือสิ่งสกปรกปนเปื้อน มันก็อาจก่อให้เกิดปฏิกิริยาทางเคมีที่ไม่สมบูรณ์ ส่งผลให้แบตเตอรี่ทำงานผิดปกติ เก็บไฟไม่อยู่ หรือมีอาการเสื่อมสภาพก่อนเวลาอันควร ดังนั้นเราจึงควรใช้น้ำกลั่นที่มีประสิทธิภาพ มีมาตรฐาน และต้องทำความสะอาดจุกเติมน้ำกลั่นทุกครั้งก่อนเติม

6. อยู่ในสถานที่ที่หนาวหรือร้อนจัดเกินไป

แบตเตอรี่เป็นอุปกรณ์ที่มีความละเอียดอ่อน แม้กระทั่งอุณหภูมิที่สูงหรือต่ำเกินไปก็ส่งผลกระทบต่อการทำงานของมันได้เช่นกัน โดยเฉพาะแบตเตอรี่เก่าที่มีความเสี่ยงสูงที่จะได้รับผลกระทบมากกว่าแบตเตอรี่ใหม่ ๆ ดังนั้นคุณจึงควรตรวจเช็กแบตเตอรี่รถอย่างสม่ำเสมอ อย่าฝืนใช้งานแบตเตอรี่เก่านานจนเกินไป เพราะมันอาจทำให้เกิดปัญหาน่าปวดหัวตามมาได้โดยที่เราไม่ทันได้ตั้งตัว

7. มีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในรถเยอะเกินไป 

หากคุณเป็นคนชอบแต่งรถ ชอบเพิ่มอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หรือติดตั้งอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ  เช่น ติดแอร์เพิ่ม ติดจอทีวี เพิ่มไฟส่องสว่าง เครื่องเสียง หรือลำโพง สิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่ต้องการพลังงานไฟฟ้าในการทำงานทั้งสิ้น หากคุณมีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มากจนเกินไป มันก็จะส่งให้แบตเตอรี่ทำงานหนักขึ้นกว่าที่ควรจะเป็น ซึ่งก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งปัจจัยเสี่ยงที่อาจทำให้แบตเตอรี่รถเสื่อมสภาพและมีอายุการใช้งานที่สั้นลง หรือในอีกกรณีหนึ่งคือไฟรั่ว ซึ่งอาจเกิดจากการติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้าเสริมเพิ่มเติม พอไฟรั่วมันก็จะทำให้แบตหมดเร็วขึ้น และเมื่อแบตหมดบ่อยมันก็จะเสื่อมสภาพอย่างรวดเร็วครับ

 
แม้ว่าปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้แบตเตอรี่รถเสื่อมจะมีอยู่มากมายหลายข้อด้วยกัน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าการจอดรถทิ้งไว้เป็นระยะเวลานาน คือสาเหตุหลักที่พบได้บ่อยเป็นอันดับต้น ๆ ในปัจจุบัน ดังนั้นหากคุณเป็นเจ้าของรถสายจอดที่ไม่อยากประสบปัญหาแบตเตอรี่รถเสื่อมก่อนเวลาอันควร คุณก็ควรใช้เครื่องชาร์จแบตเตอรี่คอยชาร์จไฟให้เต็มอยู่เสมอ เพื่อยืดอายุแบตเตอรี่ให้ยาวนานเหมือนรถที่ถูกใช้งานเป็นประจำครับ 

พร้อมป้องกันแบตเตอรี่เสื่อมจากการจอดนาน ด้วยเครื่องชาร์จแบตเตอรี่ CTEK MXS 5.0 และ CTEK XS 0.8 เครื่องชาร์จแบตเตอรี่อัจฉริยะที่ขายดีที่สุดในท้องตลาด เทคโนโลยีลิขสิทธิ์เฉพาะจากประเทศสวีเดน ใช้งานง่าย ปลอดภัย รับประกัน 5 ปี ไม่ต้องมีความรู้เรื่องช่างก็สามารถใช้งานได้ในทันที มาพร้อมกับระบบตัดไฟอัตโนมัติเมื่อชาร์จเต็ม สามารถชาร์จทิ้งไว้ได้เป็นเดือน ๆ โดยไม่ทำให้แบตเตอรี่เสีย เป็นมิตรกับระบบไฟฟ้าภายในตัวรถอย่างแน่นอน

ดูแลรถยนต์ของคุณก่อนสาย เริ่มต้นชาร์จแบตเตอรี่ตั้งแต่วันนี้ด้วย CTEK จากสวีเดน สั่งซื้อเลย!

พิเศษ! สั่งซื้อตอนนี้รับโปรโมชันราคาพิเศษทันที 

ขอบคุณข้อมูลจาก
isuzu-phranakorn.com
somwang.co.th